ปวดข้อควรทำอย่างไร? วิธีรักษาอาการปวดข้อที่บ้าน

มีอาการปวดข้อควรทำอย่างไร? วิธีรักษาอาการปวดข้อที่บ้านสำหรับผู้ที่ต้องการ อาการปวดข้อเป็นอาการทั่วไปของโรคข้อเข่าเสื่อม อาการปวดอาจเกิดขึ้นบริเวณรอบๆ หรือภายในข้อ หรือเกิดที่ข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อก็ได้ อาการปวดข้อเป็นผลจากโรคที่เกิดจากการอักเสบ การเสื่อมของกระดูกอ่อน การติดเชื้อ หรือการบาดเจ็บ อาการปวดข้อจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์และทำการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนของกระดูกและข้อที่ส่งผลต่อชีวิต

1. อาการปวดข้อคืออะไร? ข้อต่อส่วนใดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด?

อาการปวดข้อคือความรู้สึกเจ็บปวดและไม่สบายที่เกิดขึ้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อ รวมทั้งกระดูกอ่อน กระดูก เส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและโครงกระดูก

กระดูกและข้อที่ปวดมากส่งผลต่อความสามารถในการเคลื่อนไหว

มันไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดหลังทำกิจกรรมบางอย่าง หรือแย่กว่านั้น มันอาจจำกัดกิจกรรมทั้งหมดของคุณได้ โดยเฉพาะทำให้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเมื่อเคลื่อนไหว ข้อต่อที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ:

1.1. ปวดเข่า

อาการปวดเข่าเกิดจากโรคในข้อเข่าหรือเนื้อเยื่ออ่อนรอบข้อเข่า อาการปวดมักเกิดขึ้นหลังจากออกกำลังกายหนักหรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระดับความเจ็บปวดจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล บางคนอาจรู้สึกปวดเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางคนอาจมีอาการปวดรุนแรงกว่าซึ่งอาจทำให้ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ยาก

1.2. ปวดไหล่

อาการปวดไหล่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ โดยเป็นอาการปวดที่บริเวณข้อไหล่ ด้านหลังไหล่ หรือเหนือแขนขณะเคลื่อนไหว อาการอาจเกิดขึ้นได้ในทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้สูงอายุ พนักงานออฟฟิศ หรือผู้ที่ออกกำลังกายมากเกินไป

1.3. ปวดสะโพก

อาการปวดสะโพกคือความผิดปกติของข้อสะโพกที่ทำให้มีอาการปวดบริเวณสะโพกและขาหนีบ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบ หรืออุบัติเหตุ ความเจ็บปวดมักเกิดจากการบาดเจ็บ อาการเรื้อรัง หรือการติดเชื้อ

1.4. ปวดข้อเท้า

อาการปวดข้อเท้าคืออาการบวมบริเวณข้อเท้าซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการเดิน ไม่ว่าอาการปวดจะเป็นอาการเล็กน้อยหรือรุนแรง ก็ต้องตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้โรคต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้อเสื่อมข้อเท้า โรคลูปัสเอริทีมาโทซัส...

1.5. ปวดข้อมือ

อาการปวดข้อมือส่วนใหญ่มักเริ่มจากอาการบวม แดง และเจ็บปวด หากอาการปวดเกิดจากการกระแทก อุบัติเหตุ หรือใช้งานมือมากเกินไป...อาการปวดจะค่อยๆ ลดลงด้วยการพักผ่อนและการปฐมพยาบาล ตรงกันข้าม หากคนไข้ไม่สามารถหาสาเหตุหลักของโรคได้ การรักษาก็จะยากยิ่งขึ้น และอาการปวดข้อมือก็อาจรุนแรงมากขึ้น จนทำให้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ยากขึ้น

2. สาเหตุของอาการปวดข้อ

อาการปวดข้อมีสาเหตุหลายประการ วิธีการรักษาก็จะแตกต่างกันไปตามสาเหตุและลักษณะของอาการปวด

อาการปวดข้อมาจากหลายสาเหตุ

2.1. โรคข้อเข่าเสื่อม

โรคเรื้อรังอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการข้อเมื่อยล้าและปวดคือโรคข้อเสื่อม โรคนี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี โดยเฉพาะเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป โรคข้อเข่าเสื่อมทำให้กระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกอ่อนตัวลง ร่วมกับการลดลงของของเหลวในร่องข้อซึ่งทำหน้าที่หล่อลื่นข้อต่อ และการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อ

ข้อต่อต่างๆ ในร่างกายส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อภาวะเสื่อม โดยส่วนมากจะเป็นข้อเสื่อมบริเวณคอ ข้อเข่า ข้อสะโพก กระดูกสันหลังส่วนคอ ข้อไหล่...

2.2. การติดเชื้อ

สาเหตุของอาการปวดข้ออาจเกิดจากการติดเชื้อในข้อ เชื้อแบคทีเรียบุกรุกข้อทำให้เกิดอาการบวมและเจ็บปวด บริเวณข้อที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้แก่ เข่า สะโพก ไหล่...

2.3. บาดเจ็บ

อาการบาดเจ็บ เช่น ข้อเคลื่อน กระดูกหัก และเอ็นฉีกขาด เป็นสาเหตุทั่วไปและเป็นปัจจัยสำคัญของอาการปวดข้อและความเมื่อยล้า

• ข้อเคลื่อน: ข้อเคลื่อนหรือการเคลื่อนออกของข้อมักเกิดจากการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน การทำงานหรือการเล่นกีฬาในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง อาการบาดเจ็บนี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดข้อและกลับมาเป็นซ้ำได้
• กระดูกหัก: การสูญเสียมวลกระดูกอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเลือดออก กล้ามเนื้อหดตัว อาจทำให้เกิดเลือดออกในข้อข้างเคียง และมีอาการปวดข้อมากขึ้น
• อาการบาดเจ็บของเอ็น: หนึ่งในอาการบาดเจ็บที่ทำให้เกิดอาการปวดข้อและปวดเมื่อย การฉีกขาดของเอ็นบางส่วนหรือทั้งหมดจะทำให้การเคลื่อนไหวได้จำกัดพร้อมกับอาการปวดข้อในระดับต่างๆ

2.4. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

ผู้คนถึงร้อยละ 70 จะมีอาการปวดข้อเมื่ออยู่ในอากาศหนาว โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์จะทำให้เกิดอาการปวดโดยเฉพาะบริเวณข้อมือและมือ ทำให้เคลื่อนไหวได้ยาก และอาจถึงขั้นนอนหลับยากเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง...

โรคลูปัสเอริทีมาโทซัสเป็นโรคระบบที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี โรคนี้ไม่เพียงส่งผลต่ออวัยวะส่วนใหญ่เท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อและข้ออีกด้วย

2.5. การขาด Vitamin D

Vitamin D ช่วยดูดซึมแคลเซียมเพื่อให้กระดูกแข็งแรง หากขาดวิตามินชนิดนี้ ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมได้ในปริมาณที่จำเป็น ทำให้เกิดอาการข้อเสื่อม ปวดข้อ ปวดเรื้อรัง และอ่อนเพลียบ่อยๆ

3. วิธีการรักษาอาการปวดข้อที่บ้าน

โรคข้ออักเสบเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยของอาการปวดข้อ โรคข้ออักเสบได้แก่โรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ซึ่งเป็นอาการเรื้อรังทั้งคู่ ต่อไปนี้เป็นวิธีบางประการที่คุณสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดที่บ้านได้:

• การเลือกกีฬาและฝึกฝนเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้โครงกระดูกของคุณแข็งแรง ยืดหยุ่น และมีสุขภาพดี
• ใช้ชีวิตและทำงานในท่าทางที่ถูกต้อง ไม่ค้างท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป
• การใช้ผ้าอุ่นประคบจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต วิธีนี้มีประสิทธิผลกับผู้ที่มีอาการปวดข้อเนื่องจากสภาพอากาศ การเจ็บป่วย และอายุ
• การรักษาสุขภาพการรับประทานอาหารให้มีสุขภาพดีและเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการรักษาอาการปวดกระดูกและข้อ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Dulyn Sure ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกระดูกและข้อต่อได้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสนับสนุนและฟื้นฟูระบบกระดูกและข้อต่อ และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำหลายราย

วิธีการรักษาอาการปวดข้อที่บ้าน

ออกกำลังกายและดื่ม Dulyn Sure 2 แก้ว เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ หลังใช้เพียง 2 สัปดาห์ คุณจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลิตภัณฑ์นี้ผลิตบนโซ่ปิดที่ตรงตามมาตรฐาน HACCP และ GHPs และได้รับการตรวจสอบและรับรองอย่างเข้มงวดจาก อย. ไทย ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้ได้อย่างสบายใจ

สรุป 

ในบทความนี้ Dulyn Sure ได้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดข้อและวิธีการที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ การรู้จักสาเหตุและอาการที่เกิดขึ้นมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้คุณสามารถใช้วิธีการรักษาที่ง่ายที่บ้านหากอาการปวดรุนแรงขึ้นคุณสามารถไปพบแพทย์เพื่อขอแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ดูแล“สุขภาพกระดูกและข้อ”ของคุณและนำวิธีการป้องกันมาใช้เพื่อรักษาชีวิตที่มีความกระตือรือร้นและมีสุขภาพดี